
4 อย่างที่ควรดูก่อนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
ทุกประเทศย่อมมีความแตกต่างกัน บางสิ่งที่ดูเหมือนจะดีในประเทศนึงอาจจะไม่ดีสำหรับอีกประเทศเช่น รูปแบบการเมือง การปกครอง, การทำธุรกิจ, การเลือกเสื้อผ้า ที่อาจจะเหมาะเมื่อเราอาศัยอยู่ในประเทศนึงแต่ก็อาจจะไม่เวิร์คเลยเมื่ออยู่ในอีกประเทศ สิ่งเหล่านั้นก็รวมถึงปัจจัยในการเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าด้วย
ในไทยนั้นอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าถนนหนทางขึ้นชื่อเรื่อง ความขรุขระ มีหลุมบ่อ แถมทางเท้าก็ยังมีอุปสรรคมากมาย ทั้งเสาไฟ และร้านริมทาง
เพราะเหตุนี้เราเลยรวบรวมปัจจัย 4 อย่างที่ควรดูก่อนซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าในไทยมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
1. ขนาดล้อ
ในกรุงเทพซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศแต่ก็ยังมีถนนบางส่วนที่ปูไม่เรียบร้อยและยังมีหลุมมีบ่อ (ที่มีเยอะพอๆกับรถที่ขับ) อีกดังนั้นขนาดของล้อถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกจักรยานไฟฟ้า
ล้อขนาดใหญ่นั้นจะทำให้การขับขี่ปลอดภัยกว่าและรับมือกับหลุมบ่อต่างๆได้ดีกว่าต่างจากการใช้ล้อขนาดเล็กที่อาจจะทำให้คุณขับไปเด้งไปหรือแม้แต่เจอกับอุบัติเหตุหนักๆหากไม่ระวังหลุมบนถนนให้ดี
ขนาดที่เราแนะนำสำหรับกรุงเทพคือล้อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 8 นิ้ว
เช่น Inokim Light ที่มีล้อขนาด 8.5 นิ้วซึ่งสามารถการันตีได้เลยว่าจะให้การขับขี่ที่สบายและปลอดภัยกว่าขนาดล้อที่เล็กหรือจะเลือกเป็น Inokim Quick 3 ซึ่งมีขนาดล้อใหญ่ถึง 10 นิ้วถึงจะใช้ขนาดล้อที่ใหญ่ที่ทำให้คุณยิ่งปลอดภัยแต่คุณก็ต้องเสียสละแลกมันไปกับความคล่องตัว
จากประสบการณ์ส่วนตัวล้อขนาด 6 นิ้วก็สามารถใช้งานได้แต่การเดินทางของคุณก็อาจจะไม่ได้สะดวกสบายเท่าไหร่ยกเว้นว่าคุณจะใช้มันออกไปแค่ร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารหน้าปากซอย
2. ระบบช่วงล่าง
ในประเทศไทยที่ถนนทั้งขรุขระและมีหลุมบ่อซึ่งบางทีก็ทำให้เราขับตกหลุมอย่างกะทันหันหรืออาจะทำให้เสียการทรงตัวได้บ่อยๆเพราะฉะนั้นอีกอย่างที่สำคัญคือช่วงล่างที่คอยซัพพอร์ท
สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีช่วงล่างช่วยซัพพอร์ทก็เช่น E-TWOW Booster Plus ซึ่งจะสามารถช่วยให้คุณรับมือกับถนนของกรุงเทพได้เป็นอย่างดีจักรยานคันนี้มีการซัพพอร์ททั้งช่วงของด้านหน้าและด้านหลังเพื่อจะทำให้คุณขี่ไปบนพื้นที่ไม่ค่อยจะเท่ากันได้ง่ายขึ้นนอกจากนี้สกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับรางวัลอีกด้วย
แต่ถ้าเกิดความคล่องตัวและความเบานั้นไม่สำคัญกับคุณเท่าไหร่จักรยานรุ่น Dualtron ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบนพื้นผิวที่ขรุขระอยู่แล้ว
3. ประเภทของยาง: แบบเติมลม หรือยาง 100%
ยางทั้งสองประเภทย่อมมีข้อดีแตกต่างกัน
ประเภทแรกคือใช้ยาง 100% จะมีความทนทานมากกว่าแบนได้ยากกว่าและไม่ต้องบำรุงรักษามาก
ส่วนประเภทที่เติมลมจะมีการดูดซับแรงได้มากกว่าทำให้ขับขี่ได้สบายมากกว่าและบางกว่าประเภทแรก
Zero 2.0 คือสกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นที่เบาที่สุดในโลกด้วยน้ำหนัก 6.8 กิโลเมตรใช้ยางประเภทยาง 100%
รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในสิงคโปร์เพราะที่นั้นถนนเรียบและดีซี่งก็แตกต่างจากถนนในไทยดังนั้นเราจึงแนะนำรุ่น Inokim Mini ซึ่งล้อหน้าจะเป็นยางแบบเติมลมซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ได้เดินทางไกล (น้อยกว่า 1 กิโลเมตร) หรือถ้าน้ำหนักไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณรุ่น Inokim Light หรือ Quick 3 ก็น่าสนใจ
4. ขนาดของสกูตเตอร์ไฟฟ้า
ขนาดของสกูตเตอร์นั้นก็ต้องพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ในการเดินทางของคุณ
ถ้าเกิดปกติคุณใช้รถไฟฟ้าในช่วงเวลาเร่งด่วนตลอดคุณก็น่าจะรู้ว่าที่สำหรับมนุษย์นั้นมีน้อยพออยู่แล้วไม่ต้องพูดถึงการเอาสกูตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นไปด้วยเลย
เราคิดว่าควรจะเลือกอะไรที่เล็กและเบาสามารถหาพื้นที่วางหรือพิงไว้ขณะขึ้นรถไฟฟ้าได้เช่น Inokim Mini+, Zero 2.0 น่าจะเหมาะกับสิ่งที่เราพูดถึงเพราะมันเบาและเล็กที่สุดในบรรดาจักรยานไฟฟ้าแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีพลังและความเร็วในการใช้งาน
สรุป
อย่างที่พูดไปตั้งแต่ต้นของบทความว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกก็คือความแตกต่างของพื้นที่รวมถึงความแตกต่างของไลฟ์สไตล์คุณคุณจะใช้มันตอนไหน, เส้นทางที่ใช้เป็นยังไง, รสนิยมของคุณเป็นแบบไหนสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากที่สุดในการเลือก
ทุกคนย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันอยู่แล้วดังนั้นถ้าคุณสนใจก็พูดคุยและสอบถามเราได้
เราจะช่วยคุณเลือกพาหนะไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณที่สุด
Leave a comment